จารุวรรณ โชติเทวัญ จัดสมดุลธุรกิจ-ครอบครัว
หากไล่เรียง เวิร์กกิ้งวูแมนแถวหน้าเมืองไทย ยุคนี้ต้องมีชื่อของทายาทสหฟาร์ม ผู้ผลิตและส่งออกไก่ระดับโลก น้ำผึ้ง จารุวรรณ โชติเทวัญ อยู่ในลิสต์ ลำดับต้นๆ
นอกจากตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายบริหาร บริษัท สหฟาร์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด น้ำผึ้ง จารุวรรณ ซึ่งล่าสุดสวนกระแสวิกฤตโควิด-19 เปิดตัวแบรนด์พอลดีย์ (Pauldy) ผลิตภัณฑ์ไก่และไข่ที่ได้จากฟาร์มไก่อารมณ์ดีที่กำลังไปได้ดียิ่งทำให้ถูกจับตา
วัยเด็กเธอไม่ได้คิดถึงอาชีพในฝัน รู้แค่ว่าโตขึ้นต้องมาช่วยธุรกิจครอบครัวและซึมซับมาตั้งแต่วัยเยาว์จากการเดินตามคุณพ่อ ดร.ปัญญา โชติเทวัญ ไปดูโรงงานชำแหละ ช่วยงานในซูเปอร์มาร์เก็ตหลังเรียน ซึ่งเป็นเหตุผลให้เธอเลือกเรียนบิซิเนส แมเนจเม้นต์ หรือการจัดการธุรกิจ แทนที่จะเรียนอาร์ต งานดีไซน์ ที่ชื่นชอบแล้วทำไมมาปั้นแบรนด์น้องใหม่ท่ามกลางกระแสโควิด น้ำผึ้งตอบทันที “ทุกวิกฤตมีโอกาส สหฟาร์มเจอวิกฤตมาตลอด 40 ปี เราอยู่บนความลำบากมาตลอด ตอนไข้หวัดนกระบาดก็ร่วงจากบริษัทส่งออกไก่อันดับ 1 มารั้งท้าย เส้นทางมีขึ้นมีลง ถ้าจะมีวิกฤตเพิ่มก็ไม่ได้ลำบากกว่าเดิม เพราะเราลำบากมาแต่ต้น มันสร้างภูมิให้เราแล้ว จากสถานการณ์โควิดมองว่าผู้คนใส่ใจสุขภาพมากกว่าเดิม พร้อมดูแลตัวเอง ขณะเดียวกันเราอยากขายสินค้าในช็อปสโตร์ให้คนไทยได้รับประทานของดีๆ มาตรฐาน ส่งออกในราคาจับต้องได้ จึงต่อยอดจาก สหฟาร์มมาทำฟาร์มไก่อารมณ์ดี ไก่กินดี อยู่ดี นอนสบาย มีพื้นที่ให้คุ้ยเขี่ย เมื่อไก่อารมณ์ดี สุขภาพก็แข็งแรง ไม่จำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะ การเติบโตก็ดีกว่าไก่ทั่วไปแน่นอน”ผ่านงานบริหารทั้งกับบริษัทแม่และยังต้องมาดูแลแบรนด์ใหม่ น้ำผึ้งยึดหลักการบริหารธุรกิจที่มีคู่ค้าและต้องดูแลพนักงานหลายแสนชีวิต ต้องยึดหลักคุณธรรม จริยธรรม ธรรมาภิบาล ซึ่งทุกบริษัทต้องมี และทุกเดือนบริษัทจะนิมนต์พระเพื่อให้พนักงานร่วมสวดมนต์ ฟังเทศน์ ฟังธรรม นั่งสมาธิ เพราะเชื่อว่าจะช่วยหล่อหลอมให้พนักงานเป็นคนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ลดการกระทบกระทั่งกัน ส่วนตัวเธอเองทุกครั้งเวลาไปสวดมนต์จะขอพรให้ตัวเองคิดดี ทำดี พูดดี
แม้งานหนักแต่น้ำผึ้งพยายามจัดสรรเวลาให้ครอบครัวอย่างลงตัว
“คุณพ่ออายุ 90 แล้ว ทุกวันนี้ยังทำงานอยู่ ไอเดียยังบรรเจิด ท่านอยู่ที่บ้านสุขาวดี พัทยา นอกจากโทร.คุยกันทุกวันแล้ว น้ำผึ้งไปหาท่านสัปดาห์ละ 1-2 วัน เพื่อไปรับนโยบาย ส่วนคุณแม่ น้ำผึ้งทำงานที่เดียวกันก็จะกินข้าวกับคุณแม่ตลอด
สำหรับลูกสาว น้องญาร่า ด.ญ.ธันยพัต ภักดีมงคลโรจน์ อายุ 11 ขวบแล้ว ติดแม่มาก เขาชอบฟังแม่เล่านิทาน น้ำผึ้งจะสอนลูกให้เผชิญกับความเป็นจริง เรียนรู้ชีวิต ไม่อยากให้เขาเหมือนน้ำผึ้งที่เกิดในทุ่งลาเวนเดอร์ มองว่าทุกคนในโลกเป็นคนดี อย่าไปฟังคนที่คำพูดแต่ให้ดูการกระทำ สิ่งที่เราไม่เห็นคือความคิด สิ่งที่เราได้ยินคือคำพูด ซึ่งเรามักไปเชื่อคำพูด
น้ำผึ้งเชื่อเรื่องการให้เวลากับลูก แต่ด้วยงาน น้ำผึ้งไปต่างจังหวัดจึงเน้นเรื่อง quality time และบอกเขาว่าแม่มีเวลาให้น้อย เวลาอยู่กับแม่อย่าเล่นมือถือ สอนทั้งการใช้เงิน ต้องรู้จักเก็บออม จะเสียเงินกับเกมแม่ไม่เห็นด้วย รวมถึงการเข้าสังคม การอยู่ร่วมกับคนหมู่มาก ส่วนเรื่องเรียนลูกน้ำผึ้งไม่จำเป็นต้องสอบได้ที่ 1 แค่อย่าอยู่คลาสบ๊วย
ไลฟ์สไตล์ส่วนตัว น้ำผึ้งชอบท่องเที่ยว แต่ช่วงโควิดลดเที่ยวลงเพราะไม่อยากให้ตัวเองนำเชื้อโรคมาติดพ่อกับแม่ และเป็นช่วงนี้เรามุ่งมั่นในการทำงานด้วย ถ้าไปต่างจังหวัดจะชอบเที่ยวทะเล แต่ถ้าไปต่างประเทศก็ชอบช็อปปิ้งของแบรนด์เนม ช่วยคลายเครียดได้ด้วย เพราะถือคติเมื่อดูแลทุกคนก็ต้องดูแลตัวเองด้วย เราต้องมีความสุข เงินไม่ได้ซื้อความสุข แต่บางครั้งความสุขมาจากวัตถุ เราไม่ได้ซื้อหาจนเกินกำลัง
“ทุกคนต้องมีเป้าหมาย หากมุ่งมั่นไปสู่เป้าหมายโดยไม่ได้ดูว่าระหว่างการเดินทางมีความสุขไหม ชีวิตก็ตึงเครียด หากมีเวลานั่งคุยเล่น ได้สังเกตคนรอบข้างว่ามีความสุขหรือไม่ การเดินทางจะเต็มไปด้วยความสุข”
ช่องทางการสั่งซื้อ
สามารถเลือกซื้อได้ที่ LINE@ : @pauldy , Website : www.pauldy.com หรือ Gourmet Market ทุกสาขา